แบล็คแจ็คออนไลน์ (Blackjack)
เกมแบล็คแจ็ค หรือเกมไพ่ 21 แต้ม เป็นเกมที่มักจะนิยมเล่นกันเป็นอย่างมากในโซนของทางอเมริกา และทางด้านยุโรป ที่ทางเกมนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเกมไพ่ 21 นั่นก็คือมันมีการเล่นที่จะต้องทำให้แต้มได้ 21 แต้ม หรือจะต้องให้ได้แต้มใกล้เคียงกับ 21 มากที่สุด เพื่อเป็นการเอาชนะดีลเลอร์นั่นเอง เกมตัวนี้มีการเล่นที่ง่ายเป็นอย่างมาก กติกาไม่ได้มีมากมายอะไรให้คุณจะต้องคำนึงคิดตลอด เพียงแค่ทำแต้มให้ได้ใกล้เคียงกับ 21 แต้ม หรือได้ 21 แต้มเลยนั่นก็เป็นพอ ถ้าหากคุณได้แต้มเลย 21 ล่ะก็มันแสดงว่าคุณเป็นผู้บอด หรือผู้แพ้นั่นเอง
วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
วิธีการเล่นอย่างแรกของไพ่แบล็คแจ็คนั้น ทางดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้สำหรับผู้เล่น คนละ 2 ใบเท่า ๆ กัน โดยจะต้องหงายไพ่ทุกใบที่แจกเลยเท่านั้น เมื่อแจกให้กับผู้เล่นเรียบร้อยแล้วต่อมาก็ค่อยแจกให้กับเจ้ามือทีหลัง แต่เจ้ามือจะต้องเปิดไพ่แค่ 1 ใบเท่านั้น หากไพ่ที่เปิดขึ้นมาเป็นไพ่ A ทางผู้เล่นมีสิทธิ์ที่จะทำการประกันไพ่ได้
เมื่อทำการแจกไพ่เรียบร้อยแล้ว เกมก็จะทำการเล่นต่อไปโดยผู้เล่นนั้นสามารถจั่วไพ่ได้เรื่อย ๆ ตาละ 1 ใบ ให้แต้มมันใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด หรือจะ 21 แต้มเลยก็ได้ แต่ห้ามเกินนี้ เพราะถ้าหากว่าแต้มเกิน คุณจะถูกปรับแพ้ไปในทันที
การนับแต้มไพ่แบล็คแจ็ค
A = 1 หรือ 11 แต้มก็ได้
2-9 = เลขบนหน้าไพ่
10 J Q K = 10 แต้ม
อัตราการจ่ายเงินแทงสำหรับแบล็คเเจ็คออนไลน์
1. ชนะด้วยแต้มปกติ อัตราการจ่าย 1:1
2. ชนะด้วยแบล็คแจ็ค(ได้ 21 แต้ม) อัตราการจ่าย 3:2
คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อนเล่นแบล็คแจ็ค
Blackjack (แบล็คแจ็ค) – การได้แต้มไพ่ 21 จากไพ่ 2 ใบแรก
Hit – การจั่วไพ่เพิ่ม
Stand – การ “อยู่” ไม่จั่วไพ่เพิ่ม
Double down – เป็นการลงแทงเพิ่มอีก 1 เท่า ตามกติกาของแบล็คแจ็ค ผู้เล่นที่เลือกเล่น Double down จะได้รับไพ่เพิ่มอีก 1 ใบและนับแต้มจาก ไพ่ 3 ใบนั้นทันที
Split – เมื่อผู้เล่นได้ไพ่เหมือนกัน 2 ใบ เช่น 6 6 หรือ J J ดีลเลอร์จะถามว่าต้องการทำ Split หรือไม่ ถ้าเลือกทำ ผู้เล่นจะถูกแยกไพ่ออกเป็น 2 กอง โดยไพ่ที่เลขเหมือนกันนั้น จากนั้นจะได้รับไพ่อีก 2 ใบ เพื่อนำไปรวมกับไพ่ที่แยกเป็น 2 กอง และเล่นตามปกติ และจะได้ลุ้นไพ่ทั้ง 2 กองในตาเดียว
Surrender – การหมอบหรือการยอมแพ้ และจะเสียเงินครึ่งหนึ่งที่ลงแทงไว้
Insurance – เรียกอีกอย่างว่า “การทำประกัน” เมื่อเจ้ามือได้ไพ่ Ace(A) ของไพ่ที่ได้รับในใบแรก ทำให้โอกาสที่เจ้ามือจะทำแบล็คแจ็คได้สูง (แต้มไพ่ 2 ใบแรกได้ 21) ผู้เล่นจะมีโอกาสขอทำประกันด้วยการลงเงินเดิมพันเพิ่ม ถ้าเจ้าได้แบล็คแจ็คในตานั้นผู้ที่ประกันเอาไว้จะได้รับเงินเป็นจำนวน 2 เท่าของเงินที่ลงไว้ แต่ถ้าเจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นจะเสียเงินเดิมพันที่ลงไว้ทันที
เทคนิคการจั่วไพ่ในเกมแบล็คแจ็คออนไลน์
แบล็คแจ็คมีสูตร การจั่วไพ่ โดยเป็นสูตรพื้นฐานที่เซียนแบล็คแจ็คใช้กัน มีวิธีเล่น ดังนี้
– แต้มไพ่ 2 ใบแรกได้ 17, 18, 19, 20 ให้ ‘อยู่’ (stand) ไม่รียกไพ่เพิ่ม
– แต้มไพ่ 2 ใบแรกได้ 16 แต้ม : เจ้ามือมี(ไพ่ที่หงาย) 2, 3, 4, 5, 6 ให้ ‘อยู่’ ไม่จั่วไพ่เพิ่ม / เจ้ามือมีไพ่ 7 และ 8 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ / เจ้ามือมี 9 , 10 และ A ให้หมอบ (ยอมเสียเงินที่ลงไว้ครึ่งหนึ่ง)
– แต้มไพ่ 2 ใบแรกได้ 15 แต้ม : เจ้ามือมีไพ่ 2, 3, 4, 5, 6 ให้ ‘อยู่’ ไม่จั่วไพ่เพิ่ม / เจ้ามือมีไพ่ 7 , 8 , 9 และ A ให้จั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ / เจ้ามือมีไพ่ 10 ให้หมอบ (ยอมเสียเงินที่ลงไว้ครึ่งหนึ่ง)
– แต้มไพ่ 2 ใบแรกได้ 13 และ 14 แต้ม : เจ้ามือมีไพ่ 2, 3, 4, 5, 6 ให้ ‘อยู่’ ไม่จั่วไพ่เพิ่ม / เจ้ามือมีไพ่ 7 , 8 , 9 , 10 และ A ให้จั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ
– แต้มไพ่ 2 ใบแรกได้ 12 แต้ม : เจ้ามือมีไพ่ 4, 5, 6 ให้ ‘อยู่’ ไม่จั่วไพ่เพิ่ม / เจ้ามือมีไพ่ 2, 3, 7, 8, 9, 10 และ A ให้จั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ
– แต้มไพ่ 2 ใบแรกได้ 11 แต้ม : หรือแต้มน้อยกว่านี้ ให้จั่วไพ่เพิ่ม
ที่เกมแบล็คแจ็คนั้นมีผู้นิยมเล่นกันเป็นอย่างมากนั่นก็เพราะว่าเกมตัวนี้มีกติกาการเล่นที่ไม่ยาก เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงทำแต้มไม่ให้เกิน ก็พอคุณก็สามารถลุ้นชนะเจ้ามือได้ในทันที
เริ่มเสี่ยงโชคกันได้ที่ ufa656